#คุณภาพดีเกินราคาต้องเตียงเหล็กดีเฟอร์ #โรงงานผู้ผลิต เตียงเหล็ก เฟอร์นิเจอร์ เหล็กโดยเฉพาะ รายละเอียดขนาด/ราคาเตียงโฮสเทล ขนาด 3 ฟุต เริ่มต้นที่ 7500 บาท #ยินดีให้คำปรึกษาฟรี/ก่อนเริ่มโครงการ #ลูกค้าสามารถออกแบบโครงการร่วมกับผู้ผลิตได้ #ลูกค้าสมารถให้ออกไปวัดพื้นที่จากสถานที่จริงได้ #ให้คำปรึกษาตลอดโครงการด้วยผู้เชี่ยวชาญงานโครงการโดยเฉพาะ #คุณบัติพิเศษของเตียงเหล็กดีเฟอร์ - ผลิตภายใต้ระบบมาตรฐาน ISO9001 - ใช้เหล็กหนา 1.6 มิล - รับประกันตลอดอายุการใใช้งาน - เชื่อมเต็มหน้าเหล็ก (ไม่ใช้การแต้มเป็นจุด) - เจียรเก็บแนวเรียบลื่น ป้องกันการขูดขีด - พ่นด้วยระบบสีฝุ่น อบด้วยความร้อน 200 องศา - สามารถเลือกสีได้ทุกเฉดสี ตามต้องการได้ - รับน้ำหนักได้ถึง 300 กิโลกรัม - สินค้าระบบน๊อคดาวน์ สะดวกต่อการขนย้าย - ไม่มีเสียงกับทุกกิจกรรม - บริการจัดส่ง ประกอบติดตั้งหน้างานฟรี (กรุงเทพ-ปริมณฑล) - มีบริการหลังการขาย ซ่อมฟรีทุกอาการ (เกี่ยวกับการผลิต) สนใจติดต่อสอบถาม 02-988-6672 086-334-7601-4 091-776-5760 ID LINE : @Deferthai 

 #คุณภาพดีเกินราคาต้องเตียงเหล็กดีเฟอร์ #โรงงานผู้ผลิต เตียงเหล็ก เฟอร์นิเจอร์ เหล็กโดยเฉพาะ รายละเอียดขนาด/ราคาเตียงโฮสเทล ขนาด 3 ฟุต เริ่มต้นที่ 9000 บาท #ยินดีให้คำปรึกษาฟรี/ก่อนเริ่มโครงการ #ลูกค้าสามารถออกแบบโครงการร่วมกับผู้ผลิตได้ #ลูกค้าสมารถให้ออกไปวัดพื้นที่จากสถานที่จริงได้ #ให้คำปรึกษาตลอดโครงการด้วยผู้เชี่ยวชาญงานโครงการโดยเฉพาะ #คุณบัติพิเศษของเตียงเหล็กดีเฟอร์ - ผลิตภายใต้ระบบมาตรฐาน ISO9001 - ใช้เหล็กหนา 1.6 มิล - รับประกันตลอดอายุการใใช้งาน - เชื่อมเต็มหน้าเหล็ก (ไม่ใช้การแต้มเป็นจุด) - เจียรเก็บแนวเรียบลื่น ป้องกันการขูดขีด - พ่นด้วยระบบสีฝุ่น อบด้วยความร้อน 200 องศา - สามารถเลือกสีได้ทุกเฉดสี ตามต้องการได้ - รับน้ำหนักได้ถึง 300 กิโลกรัม - สินค้าระบบน๊อคดาวน์ สะดวกต่อการขนย้าย - ไม่มีเสียงกับทุกกิจกรรม - บริการจัดส่ง ประกอบติดตั้งหน้างานฟรี (กรุงเทพ-ปริมณฑล) - มีบริการหลังการขาย ซ่อมฟรีทุกอาการ (เกี่ยวกับการผลิต) สนใจติดต่อสอบถาม 02-988-6672 086-334-7601-4 091-776-5760 ID LINE : @Deferthai w.facebook.com/deferthai

8 โฮสเทลดีไซน์เท่ในภูเก็ตที่ขาลุยต้องอยากไปพัก

วันนี้เรารวบรวมโฮสเทลดีไซน์เท่ห์ๆ มาฝากทั้งชาวแบคแพคเกอร์และขาลุยมือใหม่ มาเซฟเงินไว้ดำน้ำ พายเรือคายัก ปาร์ตี้ริมหาด หรือกินซีฟู้ดให้สะใจกันดีกว่า!

---

 

FULFILL PHUKET HOSTEL

 

 

ถ้ากำลังมองหาที่พักใจกลางย่านเมืองเก่าอยู่ บอกเลยว่าที่นี่สะดวกมากๆ เพราะเพียงแค่ 300 เมตรจากที่พักเราก็สามารถเพลิดเพลินกับแหล่งช็อป และชิมได้สบายๆ FULFILL PHUKET ตกแต่งสวยสไตล์โมเดิร์นผสมเรโทรในโทนสีเหลืองดำที่โดดเด่นสะดุดตา

 

สิ่งที่เราชอบ: โซนห้องพักมีให้เลือกทั้งแบบห้องพักรวม และห้องพัก Private ส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีอาหารเช้าและฟรี Wifi บริการเช่าจักรยาน บริการจัด-ส่งที่สนามบิน รวมทั้งอาหารว่างและโซนนั่งเล่น ราคาน่าคบหาในย่านที่มีสเน่ห์ เราว่าเป็นอีกตัวเลือกที่คุ้มค่าเลยทีเดียว

 

ราคาเริ่มต้น: ห้องพักรวม 400 บาท ห้องส่วนตัว 700 บาท ต่อคืน

 

 

 

Fullfill Phuket Hostel 73/4 ถ.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โทร. 076-210-3645

 

---

BED HOSTEL

 

 

โฮสเทลสไตล์โมเดิร์นสะดวกสบายใจกลางเมืองภูเก็ตอีกแห่งหนึ่ง เน้นตกแต่งด้วยโทนสีเรียบง่าย โล่งสบายตา น่าพักผ่อนเป็นที่สุด ห้องพักมีให้เลือกทั้งห้องพักรวม และห้องพัก Private อีกเช่นกัน

 

สิ่งที่เราชอบ: นอกจากโลเคชั่นแล้ว จุดเด่นของที่นี่เห็นจะเป็นโซนนั่งเล่นส่วนหน้าที่มีโต๊ะทำงานและมุมกาแฟ 24 ชั่วโมงให้บริการ  บรรยากาศเป็นกันเองเหมือนอยู่บ้าน ในราคาที่น่าจะโดนใจขาลุยเลยทีเดียว

 

ราคาเริ่มต้น: ห้องพักรวม 350 บาท ห้องส่วนตัว 800 บาท ต่อคืน

 

 

 

Bed Hostel 15/6 ถ.มนตรี ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โทร. 076-355-767, 095-427-1157

 

---

 

LUB D PHUKET PATONG

 

ได้ชื่อว่าเป็น “โฮสเทลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย” อีกนิดนึงก็เรียกว่าโรงแรมเถอะ หลับดีภูเก็ตพึ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้วนี่เอง มาในคอนเซ็ปท์หลับสบาย ราคาประหยัด และสิ่งอำนวยความสะดวกแบบจัดหนักจัดเต็ม ถึงราคาจะสูงกว่าโฮสเทลอื่น ๆ แต่ก็เป็นตัวเลือกสำหรับแบ็กแพ็คเกอร์มือใหม่ที่ไม่เลวเลย ห้องพักมีให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์มาก ทั้งแบบเป็นส่วนตัวและแบบแชร์รูมที่เลือกได้ตามใจฉัน ที่สำคัญเราสามารถเดินไปหาดป่าได้โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที

 

สิ่งที่เราชอบ: ที่เราชอบเอามาก ๆ คือ โซนนั่งเล่น และลานกิจกรรมของที่นี่ที่ฉีกแนวจากโฮสเทลทั่วไป มีทั้งยิมมวยไทย โต๊ะพูล สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ Co-working space ร้านอาหารคอนเซ็ปท์ Fun & Fast Forward สไตล์ DIY และห้องประชุม พร้อมฟรี Wi-Fi ทั่วบริเวณโฮสเทลอีกด้วย

 

ราคาเริ่มต้น: ห้องพักรวม 616 บาท ห้องส่วนตัว 1572 บาท ต่อคืน

 

 

 

Lub D Phuket 5/5 สวัสดิรักษ์ อ.กะทุ้ จ.ภุเก็ต, 83150 หาดป่าตอง โทร. 02-635 7373 ต่อ 514, 515

 

---

 

PAUSE KATHU

 

 

 

ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปนอนชิลล์ ๆ แถว อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต แล้วล่ะก็ แนะนำที่นี่เลย! ที่พักสไตล์อินดัสเทรียลเรียบง่าย สะอาดและน่าหลับนอนเป็นที่่สุด แถมยังมีวิวภูเขาและวิวเมืองภูเก็ตซึ่งแต่ละห้องไม่ซ้ำกัน พร้อมห้องน้ำส่วนตัว รวมถึง Wifi ฟรีทั่วบริเวณ

 

สิ่งที่เราชอบ: ดีไซน์แบบง่ายๆ และที่ตั้งห่างจากตัวเมืองที่วุ่นวาย แต่ยังสะดวกสบายสำหรับขาลุย(มือใหม่)อย่างเรา

 

ราคาเริ่มต้น: ห้องพักรวม 350 บาท ห้องส่วนตัว 1,000 บาท

 

 

 

Pause Kathu 94/88  หมู่ 7 ถ.วิชิตสงคราม อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ติดต่อ โทร.081-880-2645, 063-091-9545

 

---

 

ดูเล โฮสเทล

 

ส่วนใครกำลังเล็งที่พักริมชายหาด เราหามาเสิร์ฟให้แล้ว! เดิน 1 นาทีจากที่พักก็ไปเดินชิลล์เลียบหาด รับแสงแดดและไอทะเลที่หาดกะรนแล้ว โซนห้องพักมีให้เลือก 2 แบบ ห้องพักรวมหญิง และห้องพักรวมชาย-หญิง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะห้องครัว ห้องนั่งเล่น Free wifi ส่วนเรื่องอาหารการกินที่นี่ก็มีคาเฟ่ให้บริการ

 

สิ่งที่เราชอบ: ทั้งราคา โลเคชั่นดี การตกแต่งเรียบง่ายเหมือนอยู่บ้าน เหมาะกับแบคแพคเกอร์ที่อยากนอนติดทะเลเป็นที่สุด!

 

ราคาเริ่มต้น: 450 บาท ต่อคืน

 

 

 

ดูเล โฮสเทล 164 ถ.ปฏัก หาดกะรน อ.เมืองภูเก็ต โทร. 02-451-9546

---

 

2W café & bed

 

 

ถ้ามองหาที่พักไซส์มินิ ไว้ใช้เวลาจิบกาแฟอ่านหนังสือซักเล่ม โฮสเทลและคาเฟ่อย่าง 2W Cafe & Bed น่าจะถูกใจหลายๆ เพราะมีมุมกาแฟที่ชั้นล่างให้นั่งชิลล์ในสคาเฟ่สุดชิคน แถมสตาฟยังพิถีพิถันในเรื่องของกาแฟกันสุดๆ เรียกได้ว่าใช้เวลาพักผ่อนอยู่ในที่พักได้ยาวๆ เลย

 

สิ่งที่เราชอบ: ที่นี่เอาใจคนรักกาแฟมาก! นอกจากจะมีบาริสต้าหมุนเวียนมาโชว์ฝีมือทุกวันแล้ว ยังมีกาแฟสกัดเย็นพร้อมส่งทั่วไทยด้วย ทีนี้ลูกค้าท่านไหนติดใจก็ไม่ต้องเดินทางไกลถึงภูเก็ต :)

 

ราคาเริ่มต้น: ห้องพักรวม 299 บาท ห้องส่วนตัว 900 บาท ต่อคืน

 

 

photo : Atiwat Sukkhum

 

2W café & bed,73 ถนน ดิลกอุทิศ 1 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต โทร. 089-757-7770 

---

 

Hao Hostel Phuket

 

อีกหนึ่งที่พักที่เราว่าคอนเซ็ปท์ชัดและน่าจะถูกใจใครหลาย ๆ คน อย่าง Hao Hostel ได้เลือกใช้สีขาวดูสะอาดสะอ้านตา กับสไตล์การตกแต่งที่เรียบง่ายจับเล็กผสมน้อยแต่ลงตัว ตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ตทำให้ง่ายต่อการเดินทางไปแถบย่านเมืองเก่า พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

สิ่งที่เราชอบ: หาวโฮสเทลมีบริการแพ็คเกจพาเที่ยวสำหรับคนขี้เกียจวางแผนแบบเรา โดยมีกิจกรรมตลอด 3 วัน 2 คืน ทั้งพายเรือคายัค ดำน้ำดูปะการัง ทานซีฟู้ด แล้วกลับมานอนโฮสเทล ในราคา HAO+HEY Day Trip 2,599 บาท

 

ราคาเริ่มต้น: ห้องพักรวม 300 บาท ห้องส่วนตัว 500 บาท ต่อคืน

 

 

 

Hao Hostel Phuket, 83/49 ถ.พังงา อ.เมืองภูเก็ต โทร.087-384-8899 

---

 

Quadromania

 

ที่พักรูปร่างละม้ายคล้ายคิวบิคทรงจัตุรัสแห่งนี้ไม่ได้เป็นโฮสเทลซะทีเดียว แต่เรียกตัวเองว่าเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่รองรับลูกค้าทั้งขาจรและขาประจำ  นอกจากราคาที่เป็นมิตรแล้ว ดีไซน์ก็เก๋ แปลก และแตกต่างจากที่อื่นอย่างสิ้นเชิง จึงทำให้มีลูกค้าแวะเวียนมาไม่ขาดสาย ตกแต่งสวยงาม ตั้งอยู่ในตัวเมืองภูเก็ตก็เดินทางสะดวกอีกนั่นแหละ

สิ่งที่เราชอบ: ที่นี่รองรับลูกค้าทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ราคาห้องพักส่วนตัวในราคาเริ่มต้นที่ถูกมากๆ เมื่อเทียบกับได้อยู่ในสถาปัตยกรรมแปลกๆ แบบนี้อีกด้วย

 

ราคาเริ่มต้น: ห้องพักส่วนตัว 600 บาท ต่อคืน

 

 

 

Quadromania, 25/46 ถ.แม่หลวน ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต โทร. 086-600-5004

4 Tip! กั้นห้องอย่างไร เพื่อลดปัญหาห้องแคบ

การแบ่งสัดส่วนห้องโดยการกั้นห้องนั้น  ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เพื่อนๆ มักทำเพิ่มเติม เพื่อให้ความรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว และทำให้เห็นสัดส่วนของพื้นที่การให้งานได้อย่างชัดเจน  แต่ก็มักจะพบเจอปัญหาในเรื่องของห้องที่แคบ วันนี้เราจึงมี Tip ดีๆ ในการกั้นห้อง มาฝากเพื่อนๆ กันครับ

 

 

 

 

 1. ขนาดห้อง

 

ในข้อนี้ถือเป็นข้อที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้  โดยห้องที่มีขนาดใหญ่นั้น มักจะไม่ค่อยพบปัญหาในเรื่องของห้องแคบกันซักเท่าไหร่  เนื่องจากมีพื้นที่ ที่ค่อยข้างกว้าง จึงทำให้ง่ายต่อการต่อเติมหรือกั้นห้อง

แต่ก็ควรกั้นแค่เพียงส่วนใดส่วนหนึ่งของห้อง อาทิ  กั้นระหว่างโซนห้องนอน กับ ห้องแต่งตัว เป็นต้น  เพราะหากมากกว่านั้น ก็จะทำให้ห้องดูแคบได้เช่นกันครับ

 

ส่วนกรณีที่ห้องมีขนาดเล็กนั้น จะไม่แนะนำให้กั้นห้อง เพราะจะทำให้ภายในห้องดูแคบ และ รู้สึกอึดอัด แต่หากจำเป็นต้องกั้น แนะนำให้ใช้วัสดุที่มีความใส  อย่างกระจก เพื่อช่วยทำให้ภายในห้องดูโปร่ง ไม่รู้สึกอึดอัดมากจนเกินไป

 

 

 

 

การกั้นห้องที่มีขนาดใหญ่

Source by blog.aprilandmay

 

 

 2. ลักษณะการกั้นห้อง

 

โดยหลักๆ แล้วการกั้นห้องจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ ซึ่งการเลือกใช้นั้น จะขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลัก

 

- การกั้นแบบเต็ม ซึ่งจะเป็นการกั้นแบบเต็มพื้นที่ จากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่ง  โดยลักษณะนี้ มักจะใช้กับห้องที่ต้องการความเป็นส่วนตัวหรือแบบปิด อาทิ ห้องนอน  ห้องครัว เป็นต้น

 

 

การกั้นแบบเต็ม

Source by gaptekupdate.id

 

 

- การกั้นเฉพาะบางส่วน จะเป็นการกั้นเพียงส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือ เพียงครึ่งเดียว โดยลักษณะนี้ มักเป็นการกั้น เพื่อให้เห็นสัดส่วนของพื้นที่การใช้งานได้อย่างชัดเจน แต่ไม่ได้ต้องการความเป็นส่วนตัวมากเท่าไหร่นัก

 

อีกทั้งการกั้นแบบนี้ยังสามารถเลือกรูปแบบของวัสดุได้หลากหลายกว่าการกั้นแบบเต็มอีกด้วย ซึ่งมักจะใช้ตกแต่งในส่วนของห้องนั่งเล่นค่ะ

 

 

การกั้นเฉพาะบางส่วน

Source by hometriangle

 

 

 3. วัสดุที่เลือกใช้

 

เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากเลือกไม่เหมาะนั้น อาจจะทำให้ภายในห้องดูแคบได้ ซึ่งโดยหลักๆ ที่มักนิยมใช้กันจะมี 3 แบบ คือ

 

- ฉากกั้นห้องแบบ PVC / แบบญี่ปุ่น จะมีลักษณะเป็น PVC ทึบ พับทบกันไปมา โดยแบบญี่ปุ่นจะมีการเจาะกระจกเข้าไปเพื่อช่วยเพิ่มความสวยงาม ซึ่งจะเป็นการกั้นแบบเต็มพื้นที่ โดยจะช่วยแบ่งสัดส่วนของห้องได้อย่างชัดเจน  และติดตั้งได้ง่ายโดยที่ไม่ต้อง ทุบ รื้อ ใดๆ ทั้งสิ้น

 

สำหรับ ฉากกั้นห้องแบบ PVC / แบบญี่ปุ่น นั้น จะเหมาะกับห้องที่มีขนาดกว้าง หากใช้กับห้องที่มีขนาดเล็กจะทำให้ภายในห้องดูแคบทั้งทีครับ

 

 

ฉากกั้นห้องแบบ PVC / แบบญี่ปุ่น

Source by accordion-doors

 

 

- ประตูกระจก ถือเป็นอีกหนึ่งวัสดุยกฮิต ซึ่งหลายๆ โครงการมักจะนำไปใช้ในการกั้นห้อง โดยเฉพาะคอนโด ซึ่งประตูกระจกนั้น จะเหมาะกับห้องทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เนื่องจากมีความใสจึงทำให้ภายในห้องดูโปร่ง

 

แต่หากต้องการเพิ่มความเป็นส่วนตัวเข้าไป  สำหรับห้องที่มีขนาดเล็ก แนะนำให้ติดเป็นพวกสติ๊กเกอร์ฝ้า  ฟิล์มฝ้ากระจก โดยจะติดทั้งหมด หรือเว้นบางช่วงเพื่อให้มีช่องแสงก็ได้ทั้งนั้น

 

ส่วนห้องที่มีขนาดใหญ่นั้น จะใช้เป็นพวกสติ๊กเกอร์ฝ้า  ฟิล์มฝ้ากระจก ก็ได้เช่นกัน  หรือ อีกหนึ่งวิธีคือ การใช้ผ้าม่าน ซึ่งจะได้ทั้งความสวยงามและความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นครับ

 

 

ประตูกระจก

Source by stephaniewhite.style

 

 

- ผ้าม่าน มักจะนิยมใช้กับห้องที่มีขนาดใหญ่ แต่หากต้องการติดตั้งในห้องที่มีขนาดเล็กนั้น Infinity Design ผ้าม่าน แนะนำให้เลือกใช้เป็นผ้าโปร่ง หรือ โทนสีอ่อนๆ เพื่อให้ความรู้สึกสบายตายิ่งขึ้น และไม่อึดอัดครับ

 

 รับสมัคร ดีไซเนอร์ ออกแบบงานเฟอร์นิเจอร์ครับ
.
เราจะสร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์เพื่อประหยัดพื้นที่ภายในบ้านของคุณ
ในการใช้ประโยชน์ของพื้นที่แนวตั้งให้เต็มที่ที่สุด
เพื่อให้มีพื้นที่ใว้ให้ทุกคนมีความสุขร่วมกัน
.
ใครอยากร่วมงานกับเราDeferเชิญนะครับถ้าคุณมีความคิสร้างสรรค์

เราอยากให้คุณใช้มันเพื่อคนที่มีชีวิตอยู่ในห้องเล็กได้มีความสุขบนพื้นที่ที่จำกัด
.
.
รับทั้งแบบประจำ
.
.
แบบ Part Time นะครับ
'
"ขอบคุณสำหรับความไว้วางใจที่มอบให้ Defer ครับ"
สนใจติดต่อสอบถาม
Defer :02-988-6672 , 086-334-7604
086-334-7601-4 
ID LINE : @Deferthai
.

 . อารมณ์ดี โฮสเทล

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Arom d Cafe / Arom d Hostel

          ด้วยทำเลที่ตั้งของ "อารมณ์ดี โฮสเทล" อยู่ท่ามกลาง แหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ เช่น พระบรมมหาราชวัง วัดโพธิ์ ศาลาเฉลิมกรุง วัดอรุณฯ ปากคลองตลาด ทำให้โฮสเทลแห่งนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่พักโฮสเทลอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยว ภายในตกแต่งสไตล์โมเดิร์นที่ดูเรียบง่าย เน้นความสะอาดตา แต่ก็คงไว้ซึ่งสีสันที่สอดแทรกอยู่ตามฝาผนัง ผ้าม่าน ทำให้แขกที่มาเข้าพักไม่รู้สึกเบื่อมากจนเกินไป พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกอย่างเครื่องปรับอากาศ อินเทอร์เน็ตไร้สาย ไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยวให้รู้สึกถึงความสบายและเป็นกันเอง

           ราคา : เริ่มต้น 400 บาท (ห้องนอนรวม/ห้องนอนรวมหญิง)
           ที่อยู่ : 336 ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
           เบอร์โทรศัพท์ : 02 622 1055
           เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Arom d Cafe / Arom d Hostel และ aromdhostel.com

 17. หลับดีโฮสเทล

          โฮสเทลราคาประหยัดและเป็นมิตรสำหรับนักเดินทางสไตล์แบ็คแพ็กเกอร์ ที่ไม่ได้เน้นความหรูหรา แต่เน้นความสะดวกในการเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน "หลับดีโฮสเทล" ในกรุงเทพฯ เปิดให้บริการทั้งหมด 2 สาขา ทั้งสยามสแควร์ และ สีลม เก๋ไก๋ด้วยการตกแต่งภายในที่ดูเหมือนหอพักที่เมืองนอก แถมด้วยการบริการที่เป็นกันเอง "หลับดีโฮสเทล" จึงน่าจะเป็นโฮสเทลเล็ก ๆ ที่น่าจะตอบโจทย์นักเดินทางได้ดี ซึ่งได้รับรางวัลระดับโลกและระดับเอเชียการันตีมาแล้ว

           ราคา : สามารถดูรายละเอียดได้ที่ lubd.com
           ที่อยู่ : สาขาสีลม 4 ถนนเดโช แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ และสาขาสยามสแควร์ 925/9 ถนนพระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
           เบอร์โทรศัพท์ : 02 635 7373 ต่อ 513-515
           เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Lub d และ lubd.com

 18. บ้านดินสอโฮสเทล

          โฮสเทลน่ารัก ๆ แสนเก๋ ดัดแปลงจากบ้านโบราณที่มีอายุร่วม 100 ปี แถมยังได้รับรางวัลการันตีมากมาย การตกแต่งภายในโฮสเทลทำด้วยความพิถีพิถัน ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนว่านอนอยู่ที่บ้าน แถมยังอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย เช่น วัดพระแก้ว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โลหะปราสาท พิพิธภัณฑ์รัตนโกสินทร์ ถนนข้าวสาร แถมเรื่องที่กินแถบนี้ก็มีชื่อเสียงไม่แพ้ที่อื่น ๆ ทั้งในย่านสามแพร่ง ย่านท่าพระอาทิตย์ ท่าพระจันทร์ เรียกว่าเป็นโฮสเทลทำเลทองที่นักท่องเที่ยวเลือกมาพักที่นี่บ่อย ๆ

           ราคา : เริ่มต้น 900 บาท (ห้องนอนรวม)
           ที่อยู่ : 113 ตรอกศิลป์ ถนนดินสอ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
           เบอร์โทรศัพท์ : 086 815 2200
           เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Baan Dinso Hostel และ baandinso.com

 19. Linkcorner Hostel

          โฮสเทลแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณประตูน้ำ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ราชปรารภเพียง 20 เมตร ทั้งนี้คุณสามารถเดินไปยังย่านแหล่งช้อปปิ้งทั้งประตูน้ำ แพลทินัมมอลล์และเซ็นทรัลเวิลด์ได้โดยใช้เวลาไม่นาน และอยู่ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและสถานี BTS พญาไท อีกด้วย นับเป็นโฮสเทลที่น่าสนใจในแง่ของความสะดวกสบายในการเดินทาง ที่นี่มีบริการทั้งห้องพักนอนรวม (แบบ 4, 6, 8 เตียง) และห้องนอนส่วนตัวโฮสเทล ตกแต่งอย่างเรียบง่าย ทันสมัย มีเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครัน เช่น ห้องนั่งเล่นและล็อบบี้ขนาดใหญ่ เคาน์เตอร์ครัว  มุมคอมพิวเตอร์ ฟรี Wifi เครื่องปรับอากาศ ล็อกเกอร์ และเครื่องซักผ้า ไว้คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่มาเข้าพักอีกด้วย 

           ราคา : เริ่มต้น 350 บาท (ห้องนอนรวม/ห้องนอนรวมหญิง)
           ที่อยู่ : 86/7 ถนนราชปรารภ แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
           เบอร์โทรศัพท์ : 02 640 0550
           เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Link Corner Hostel Bangkok และ linkcornerhostel.com

 20. Saphaipae Hostel

          โฮสเทลที่มีความทันสมัย ตั้งอยู่ในย่านสีลม ถนนสายเศรษฐกิจและท่องเที่ยวที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก เพราะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเพียง 5 นาที มีบริการห้องพักทั้งห้องพักรวมและห้องพักส่วนตัว แต่ละห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น โทรทัศน์ มินิบาร์ ตู้เก็บของ เป็นต้น แถมยังมีห้องนั่งเล่นส่วนกลาง โต๊ะพลู และจุดบริการอินเทอร์เน็ต หรือถ้าใครอยากทานของว่าง ที่นี่ยังมีกาแฟและอาหารว่างไว้คอยบริการอีกด้วย

           ราคา : เริ่มต้น 400 บาท (ห้องนอนรวมขนาด 10 เตียง)
           ที่อยู่ : 35 ถนนสุรศักดิ์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
           เบอร์โทรศัพท์ : 02 238 2322
           เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Saphaipae Hostel และ saphaipae.com

          โฮสเทลในกรุงเทพฯ แต่ละที่เรียกได้ว่าทั้งเก๋ สวย และมีสไตล์สุด ๆ ที่สำคัญราคาไม่แพง เหมาะเป็นที่พักผ่อนสำหรับนักเดินทางหรือคนที่เดินทางมาติดต่อธุระใน กรุงเทพฯ ช่วงเวลาสั้น ๆ รับรองงานนี้นอนหลับสบายหายห่วง และไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย แถมเงินในกระเป๋าก็ไม่พร่องอีกด้วย อะไรมันจะดีอย่างนี้ !

          หมายเหตุ : ข้อมูลและราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 20 มกราคม 2559

 1. สุเนต์ตา โฮสเทล

          โฮสเทลที่ตั้งอยู่บริเวณย่านถนนข้าวสาร ศูนย์กลางบรรดาเหล่านักเดินทางแบกเป้ทั้งหลาย ความแตกต่างของโฮสเทลแห่งนี้อยู่ที่ราคาที่พักที่อาจจะสูงกว่าราคาเฉลี่ยของ ที่พักละแวกข้าวสารอยู่สักหน่อย ซึ่งเป็นความตั้งใจที่เจ้าของอยากให้ "สุเนต์ตา โฮสเทล" เป็น ตัวเลือกใหม่ตรงกลางระหว่างโฮสเทลกับโรงแรมราคาสูง ด้วยเพราะอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว พร้อมกับการตกแต่งห้องพักที่สวยงาม ภายในมีเอกลักษณ์โดดเด่น บวกกับการบริการที่ดีและสมเหตุสมผล แน่นอนเลยว่าทำไมใครต่อใครถึงอยากเข้าพักที่โฮสเทลแห่งนี้

          ราคา : เริ่มต้น 490 บาท/เตียง/คืน (สำหรับห้องพักรวมมาตรฐาน 16 เตียง)
          ที่อยู่ : 209-211 ถนนไกรสีห์ แขวงบางลำพู เขตพระนคร กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 629 0150
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Suneta Hostel Khaosan และ suneta.net

2. เบด สเตชั่น โฮสเทล

          โฮสเทลขนาดเล็กกะทัดรัดที่พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา สัมผัสชีวิตที่ทันสมัยในเมืองกรุง ตั้งอยู่ในซอยเพชรบุรี 16 เดินทางสะดวก เพราะห่างจากสถานีรถไฟฟ้าราชเทวีไปไม่ไกล ภายในตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น ที่เผยให้เห็นผนังปูนเปลือยเปล่า ดูดิบ เท่ และเซอร์ ที่สำคัญตอบสนองทุกความต้องการของผู้เข้าพัก ความปลอดภัย ทั้งในเรื่องความสะดวกสบาย บรรยากาศที่ดูอบอุ่นเหมือนอยู่กับบ้าน และใกล้แหล่งท่องเที่ยวทั้งห้างสรรพสินค้า วัดวาอารามเก่าแก่มากมาย ห้องพักมีให้เลือกมากมาย ได้แก่ ห้องพักส่วนตัว ห้องพักขนาด 4 และ 6 เตียงนอน เป็นต้น และถึงแม้ว่าคุณจะต้องแชร์ห้องร่วมกันกับคนอื่น คุณก็จะไม่รู้สึกอึดอัด ทั้งยังรู้สึกได้ถึงความเป็นส่วนตัวอีกด้วย

          ราคา : เริ่มต้น 450 บาท (ห้องนอนรวม 8 เตียง)
          ที่อยู่ : 486/149-150 ซอยเพชรบุรี 16 แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 081 807 8454, 095 540 5959
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Bed Station Hostel และ bedstationhostel.com

3. Loftel 22 Hostel

         โฮสเทลตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ปากซอยเจริญกรุง 22 ดำเนินกิจการโดยครอบครัวอริยรัชโตภาส 4 สาวพี่น้องช่วยกันบริหารงานโดยเริ่มศึกษาหาข้อมูลด้วยตัวเอง จนก่อสร้างโฮสเทลแห่งนี้ขึ้น ด้านบนโฮสเทลยังมีบริเวณดาดฟ้า ลูกค้าสามารถขึ้นไป chill out และเปิดบริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ทางโฮสเทลยังมีคาเฟ่เล็ก ๆ ที่ชั้นล่างของตัวตึก เปิดเวลา 7 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม ให้บริการอีกด้วย ส่วนห้องพักมีเครื่องอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ทั้งเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น และเตียงนุ่มน่านอน แถมยังจัดแบ่งโซนสูบบุหรี่เอาไว้เป็นสัดส่วน เพื่อจะได้ไม่เป็นการรบกวนผู้เข้าพักคนอื่น นับเป็นโฮสเทลที่น่าสนใจในแง่ของความสะดวกสบายในการเดินทาง และการท่องเที่ยวที่ดีอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

           ราคา : เริ่มต้น 300 บาท (ห้องนอนรวม 4 เตียง)
           ที่อยู่ : 952 ซอยเจริญกรุง 22 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ  
           เบอร์โทรศัพท์ : 02 117 9322, 086 807 1144
           เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Loftel22 Hostel และ loftel22bangkok.com (Instagram : Loftel22) 

 4. D-Box Hostel

          โฮสเทลที่ตั้งอยู่ย่านแฟชั่นและย่านช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ อย่างประตูน้ำ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ เรียกได้ว่าคุณจะได้เดินช้อปปิ้งจนสมใจอยาก ภายในโฮสเทลตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นที่ดูเรียบง่าย เน้นโทนสีขาว ให้ความรู้สึกสะอาดตา พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน บริการห้องพักหลากหลายรูปแบบ มีทั้งห้องพักหญิงรวม ห้องพักรวมชายหญิง ที่มีผ้ากั้นคอยให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้ที่มาเข้าพัก มีพื้นที่สันทนาการอย่างโต๊ะบิลเลียด บาร์ และพื้นที่ส่วนกลางให้ผู้มาเข้าพักได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกัน

           ราคา : เริ่มต้น 500 บาท (ห้องนอนรวม 8 เตียง, 10 เตียง และ 14 เตียง)
           ที่อยู่ : 88/2 เพชรบุรีซอย 13 ถนนเพชรบุรี แขวงพญาไท เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
           เบอร์โทรศัพท์ : 02 653 6881
           เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก D.Box Hostel และ d-boxhostel.com

 5. Hi-Sukhumvit Hostel

          โฮสเทลแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านสุขุมวิท ซึ่งเป็นถนนสายเศรษฐกิจและแหล่งท่องเที่ยว ภายในโฮสเทลตกแต่งอย่างเรียบง่าย เน้นความสะดวกสบายของผู้เข้าพักเป็นหลัก มีบริการห้องพักทั้งเตียงรวมและห้องพักส่วนตัว พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ตลอดจนความปลอดภัยของผู้เข้าพัก มีสวนขนาดย่อมให้คุณเอาไว้นั่งพักผ่อนชิล ๆ เป็นอีกหนึ่งโฮสเทลที่จะเติมพลังให้คุณ หลังจากที่คุณต้องตะลอนเที่ยวหรือทำธุระในกรุงเทพฯ มาแล้วทั้งวัน นับเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของโฮสเทลที่สมบูรณ์แบบและลงตัวที่สุดแห่งหนึ่งใน กรุงเทพฯ

           ราคา : เริ่มต้น 350 บาท (ห้องนอนรวม)
           ที่อยู่ : 23 ซอยสุขุมวิท 38 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
           เบอร์โทรศัพท์ : 02 391 9338-9
           เว็บไซต์ : hisukhumvit.com

 Oldtown Hostel

          โฮสเทลย่านถนนเจริญกรุง ถนนสายประวัติศาสตร์และใกล้แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมมากมาย โดดเด่นด้วยตัวอาคารตึกโบราณที่อายุร่วม 100 ปี ซึ่งได้รับการปรับปรุงและตกแต่งอย่างมีสไตล์ จนกลายเป็นที่พักราคาถูกขวัญใจของนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ปัจจุบันมีห้องพักให้บริการทั้งหมด 22 ห้องพัก จุดเด่นของโฮสเทลที่นี่อีกอย่างนั่นคือการบริการ โดยจะคำนึงถึงความสบายใจและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมโฮสเทลแห่งนี้ถึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ไม่เสื่อมคลาย

          ราคา : เริ่มต้น 350 บาท (ห้องนอนรวม 8 เตียง และ 10 เตียง)
          ที่อยู่ : 1048-1054 ถนนเจริญกรุง (ซอย 28) แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 639 4879
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Oldtown Hostel และ oldtownhostelbkk.com

In a Box Hostel

          โฮสเทลแห่งนี้อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าพญาไทเพียง 1 นาที จึงเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ได้โดยสะดวก ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอย่าง พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน ประตูน้ำ เซ็นทรัลเวิลด์ เน้นการตกแต่งภายออกโทนอบอุ่น ให้ความรู้สึกว่าเหมือนนอนอยู่บ้าน ห้องพักแต่ละห้องมีเครื่องปรับอากาศ ตู้เก็บของส่วนตัว และห้องน้ำรวมพร้อมฝักบัว เรียกได้ว่ามีเครื่องมืออำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ผู้เข้าพักสามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางนั่งชิล อ่านหนังสือ หรือพูดคุยแลกเปลี่ยนบทสนทนาได้ตามอัธยาศัย

          ราคา : เริ่มต้น 475 บาท
          ที่อยู่ : 55/39 ซอยโกลิต ถนนพญาไท แขวงราชเทวี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 095 757 4305
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก In a box, hostel

POD Hostel & Designshop

          ร้านกาแฟและโฮสเทลตั้งอยู่ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์ชัย ชั้นบนเปิดเป็นห้องเช่า เป็นห้องเช่าสไตล์ลอฟต์ที่เผยให้เห็นผนังเปลือยเปล่า มีทั้งแบบห้องแยกและห้องรวมที่เป็นแคปซูล ห้องพักแต่ละห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์อย่างลงตัว จุดเด่นของที่นี่คือเป็นเส้นทางผ่านของกลุ่มคนที่ชอบปั่นจักรยาน ดังนั้นบรรยากาศของทั้งร้านคาเฟ่และโฮสเทลจึงเต็มไปด้วยความคึกคักของผู้คน ที่แวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย ซึ่งผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มที่คาเฟ่ หรือลงมาแลกเปลี่ยนบทสนทนาร่วมกันได้ตามอัธยาศัย

          ราคา : เริ่มต้น 400 บาท (ห้องนอนรวม)
          ที่อยู่ : 156/3 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 095 449 8698
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก POD Hostel Cafe Designshop และ pod-designhostel.com

 New Phiman Riverview Guesthouse

           โฮสเทลที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศธรรมชาติสไตล์ country ทั้งยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวอย่างถนนข้าวสาร และถนนพระอาทิตย์ มีบริการห้องพักทั้งแบบห้องแอร์มีวิวแม่น้ำ และแบบกระท่อมริมแม่น้ำห้องพัดลม จุดเด่นของโฮลเทสแห่งนี้มีพื้นที่นั่งเล่นริมแม่น้ำ ซึ่งผู้เข้าพักสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำ เจ้าพระยา และสะพานพระราม 8 ได้อย่างเต็มตา

          ราคา : เริ่มต้น 500 บาท (ห้องนอนรวมขนาด 8 เตียง)
          ที่อยู่ : 123 ซอยสามเสน 5 ถนนสามเสน แขวงสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 088 892 5523
          เว็บไซต์ : new-phiman-riverview-guesthouse.bangkokthaihotels.com และ เฟซบุ๊ก New Phiman Riverview Guesthouse

 Nap Park Hostel

ภาพจาก nappark.com


ภาพจาก nappark.com

          โฮสเทลราคาประหยัดในกรุงเทพฯ บริเวณถนนข้าวสาร ภายในนอกจากมีบริหารห้องพักแล้ว ยังมีคาเฟ่ ห้องซักรีด รวมถึงบริการทัวร์อีกด้วย ภายในห้องพักแต่ละห้องตกแต่งอย่างเรียบง่าย เป็นเตียงสองชั้น และมีฉากกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ที่มาเข้าพัก ห้องน้ำรวมแยกชายหญิงอย่างเป็นสัดส่วน ทั้งนี้ผู้เข้าพักสามารถผ่อนคลายอิริยาบถต่าง ๆ เช่น ดูทีวี อ่านหนังสือ ฯลฯ ได้ที่ล็อบบี้ของที่พัก ตลอดจนยังมีห้องครัวไว้สำหรับให้คุณได้ทำอาหารอีกด้วย

          ราคา : เริ่มต้นที่ 400 บาท
          ที่อยู่ : 5 ถนนตานี แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 282 2324, 02 629 1187
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก NapPark Hostel และ nappark.com

 ใครจะเชื่อว่ากรุงเทพฯ เมืองที่มีค่าครองชีพค่อนข้างสูงแห่งนี้ ยังคงมีโฮสเทลราคาถูกซ่อนตัวอยู่มากมาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสไตล์แบ็คแพ็กเกอร์ และคนที่เดินทางเข้ามาทำธุระที่กรุงเทพฯ ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เพราะจริง ๆ แล้วทุกคนก็แค่ต้องการเพียงสถานที่พักผ่อนเล็ก ๆ และอบอุ่น เหมือนอย่างโฮสเทลที่เราจะพาไปรู้จักในวันนี้ บอกได้เลยว่าบรรยากาศไม่ธรรมดา สวย เริด และเก๋ ที่สำคัญราคาไม่แพง !

1. Here Hostel 

          โฮสเทลที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เส้นถนนราชดำเนิน ทางด้านหลังอาคารนิทรรศรัตนโกสินทร์เป็นอาคารเก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 โดด เด่นด้วยการตกแต่งที่คงไว้ซึ่งความคลาสสิกสไตล์โมเดิร์น ที่จะมอบประสบการณ์การเข้าพักที่สะดวกสบายแก่ผู้มาเยือน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ จุดเด่นของโฮสเทลที่นี่คือสไลเดอร์ให้ผู้เข้าพักได้เล่น อารมณ์ว่าถ้าใครขี้เกียจเดินลงบันได ก็ใช้สไลเดอร์อันนี้ไถลลงมาได้เลย มีโซนสำหรับทำอาหารส่วนรวมและอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องดื่ม เป็นต้น รวมถึงขนาดห้องพักที่มีให้เลือกหลากหลายเตียง ตั้งแต่ 2 คน, 4 คน, 6 คน และ 8 คน

          ราคา : เริ่มต้น 490 บาท (ห้องเตียงรวม 4 เตียง, 6 เตียง, 8 เตียง และ 12 เตียง)
          ที่อยู่ : 196/3-8 ถนนราชดำเนิน เขตพระนคร กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 090 987 7438
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Here Hostel และ herehostel.com

2. Glur Bangkok Hostel and Coffee Bar

          ตั้งอยู่ข้างในซอยข้าง ๆ ห้างโรบินสัน (เจริญกรุง 50) สะดุดตาด้วยคาเฟ่สีน้ำเงินและบาร์กาแฟ ที่เรียงรายด้วยอุปกรณ์การชงกาแฟต่าง ๆ บรรยากาศร้านชิล ๆ ที่สำคัญเปิดบริการ 24 ชั่วโมง โดยทางด้านบนเป็นห้องพักโฮสเทลราคากันเอง แต่ถึงจะไม่ได้เป็นแขกเข้าพักที่นี่ก็มานั่งจิบกาแฟชิล ๆ ได้ไม่ว่ากัน ห้องพักแต่ละห้องตกแต่งอย่างสวยงาม เน้นความเรียบง่ายแลดูสะอาดตา แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งสีสันสดใสให้ผู้เข้าพักรู้สึกมีความสุขเหมือนนอนอยู่ที่ บ้าน

          ราคา : เริ่มต้น 400-500 บาท (ทั้งนี้ราคาอาจมีการยืดหยุ่น ขึ้นอยู่กับช่วงระยะเวลาการจอง)
          ที่อยู่ : 45 ซอยเจริญกรุง 50 ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพ ฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 630 5595
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Glur Bangkok และ glurbangkok.com

3. Chao Hostel

          หนึ่งในโฮสเทลที่ได้รับเลือกให้เป็นที่พักยอดนิยมสำหรับผู้เดินทาง โดดเด่นด้วยการตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น เน้นสีน้ำตาลที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ทำให้แขกที่มาเข้าพักไม่ได้รู้สึกว่านอนโฮสเทล แต่เหมือนว่านอนอยู่ที่บ้านของตัวเองมากกว่า พร้อมกันนี้ยังมีของประดับตกแต่งที่มีความเก๋ไก๋ ไม่ว่าจะเป็นการเอาสุ่มที่จับปลามาทำเป็นโคมไฟประดับ การเผยให้เห็นผนังปูนเปลือยเปล่าในแบบ Loft ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้ นับว่าเป็นโฮสเทลที่มีการออกแบบได้อย่างลงตัวและสวยงาม ทั้งยังอยู่ในย่านท่องเที่ยว เช่น มาบุญครอง สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นต้น

          ราคา : เริ่มต้น 550 บาท (ห้องเตียงรวม 6 เตียง)
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 217 3083
          ที่อยู่ : 865 อาคารสยามแอ็ทสยาม ชั้น 8 ถนนพระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Chao Hostel Bangkok และ chaohostel.com

4. Chern Bangkok Boutique Hostel

          โดดเด่นด้วยสไตล์การตกแต่งโฮสเทลที่ดูโล่งและสบายตา เน้นการใช้วัสดุไม้ ปูน และเหล็กได้อย่างลงตัว ทุกซอกทุกมุมของโฮสเทลสะอาด บรรยากาศโดยรอบแลดูกว้าง โปร่งสบาย และเงียบสงบมาก ๆ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการการพักผ่อนแต่ไม่อยากเสียเงินไปนอนใน โรงแรมแพง ๆ ในส่วนของแผนกต้อนรับ เราจะเห็นเก้าอี้ไม้สีน้ำตาลวางเป็นกลุ่ม ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งจิบเครื่องดื่มชิล ๆ มองดูวิวรอบโฮสเทล มีรูปวาดที่เป็นเหมือนปริศนาคำทายตามผนังให้นักท่องเที่ยวได้ลองเดาอย่างไม่ รู้สึกเบื่อ ทุกตารางนิ้วของที่นี่จึงเหมือนเชื้อเชิญให้เราพักสมกับชื่อโฮสเทล "เชิญ" จริง ๆ

          ราคา : เริ่มต้น 400 บาท (ห้องนอนรวม)
          ที่อยู่ : 17 ซอยราชศักดิ์ ถนนบำรุงเมือง แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 621 1133
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก CHERN Bangkok Boutique Hostel และ chernbangkok.com

5. The Cube Hostel

          โฮสเทลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เพียงแค่เดินไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง และสถานีรถไฟใต้ดิน MRT สีลม เรียกได้ว่าใกล้แหล่งกินและช้อป ห้องพักมีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนชัดเจน แบ่งเป็นห้องเตียงรวม (ชายและหญิง) และห้องเฉพาะสำหรับคุณผู้หญิง มีห้องน้ำรวมแยกฝั่งชายหญิงที่แบ่งฝั่งเอาไว้อย่างชัดเจน จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่เตียงนอนมีลักษณะเป็นช่อง และมีผ้าม่านไว้สำหรับปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวแก่ผู้เข้าพัก ที่สำคัญราคาไม่แพง เหมาะสำหรับนักเดินทางหรือผู้ที่ต้องเข้ามาทำธุระในกรุงเทพฯ ชั่วคราว บริเวณด้านหลังที่พักมีสวนและม้านั่งยาว เหมาะสำหรับไว้นั่งรับประทานอาหาร หรือนั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้มาเข้าพัก

          ราคา : เริ่มต้น 390 บาท
          ที่อยู่ : 3/9 ถนนศาลาแดง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 636 1122, 083 005 7974
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก The Cube Hostel และ thecubehostel.com

เมื่อเทรนด์การท่องเที่ยวในยุคปัจจุบันเปลี่ยนไป ผู้คนเริ่มท่องเที่ยวแบบคนเดียวมากขึ้น เพราะต้องการอิสระและอยากพึ่งตัวเอง “โฮสเทล” โรงแรมประเภทหนึ่งที่เน้นการบริการแบบ self-service จึงมีบทบาทมากขึ้นทั้งนี้ก็เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนร่วมเดินทางใหม่ๆ Defer ผู้นำด้านการผลิตเตียงเหล็กและเฟอร์นิเจอร์เหล็กในพื้นที่แคบๆในพื้นที่ๆจำกัด ที่เน้นความแข็งแรงสวยงามและประโยช์ใช้สอยจึงเข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมกับเทรนด์นี้ไปแล้ว                                    เราชาว Defer จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจในธุรกิจประเภทนี้ครับ

 

โฮสเทล คืออะไร?

โฮสเทล คือ ที่พักนักท่องเที่ยวราคาประหยัดที่มีเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เช่น เตียงนอน และที่เก็บของ ส่วนมากจะมีลักษณะคล้ายหอพัก มี เตียงสองชั้นหลายๆเตียงในห้องเดียวกัน สามารถรองรับผู้เข้าพักได้ตั้งแต่ 4,6,8 ไปจนถึง 12 คนต่อห้องบางแห่งจะแยกห้องพักสำหรับผู้หญิงไว้คนละส่วนเพื่อความปลอดภัยและสบายใจระหว่างเข้าพักใช้ห้องน้ำร่วมกันแต่ก็มีบางส่วนที่อาจเป็นห้องพักเดี่ยว 

ต่างจากโรงแรมแบบอื่นๆ อย่างไร?

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าโรงแรมในประเทศไทยมีแบบไหนบ้าง โดยจะยกตัวอย่างมา 3แบบหลักๆที่พบเห็นได้ทั่วไป

โฮเทล (Hotel) คือที่พักที่มีบริการที่ครบครัน ตกแต่งอย่างหรูหรา มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากมาย เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ร้านอาหาร ห้องน้ำในตัว มีความเป็นส่วนตัวสูง เป็นต้น ราคาเข้าพักมีหลากหลาย ส่วนมากจะตั้งอยู่ใจเมืองติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวก

โมเต็ล (Motel) มาจากคำว่า Motor + Hotel เดิมเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นที่พักระหว่างทางของนักเดินทาง ที่ต้องขับรถระยะไกล โดยแขกจะเข้าพักเป็นระยะเวลาสั้นๆหรือเพียงข้ามคืน ส่วนใหญ่มักอยู่ริมทางหลวง แต่ในประเทศไทยอาจหมายถึงโรงแรมระดับ 3 ดาว ราคาประหยัด มีสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน และมีอาหารเช้าบริการ

เกสต์เฮ้าส์ (Guest house)  หรือ โฮมสเตย์ (Homestay) คือที่พักที่พักร่วมกับเจ้าของบ้านโดยเจ้าของบ้านจะแบ่งพื้นที่ในบ้านบางส่วนมาทำเป็นห้องให้แขกเข้าพัก ส่วนมากมักตั้งอยู่ตามชุมชนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น อัมพวา,เชียงคาน เป็นต้น มีราคาย่อมเยา เน้นการบริการแบบเป็นกันเอง

ใครบ้างที่มาใช้งานโฮสเทล

นอกจากแบคแพตเกอร์ชาวต่างชาติแล้ว ก็ยังมีกลุ่มคนในประเทศที่เข้าไปใช้งานโฮสเทล เหตุผลที่เลือกก็อาจจะเพราะอยากลองเปลี่ยนที่นอน อยากเจอเพื่อนใหม่ หรือเพราะเดินทางไปไหนมาไหนสะดวก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งของโฮสเทล อย่างเช่น ถ้าตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ก็อาจจะมีนักเรียนนักศึกษาที่มาจากต่างถิ่นมาใช้บริการ เพราะราคาถูกกว่าพักโรงแรม

เสน่ห์ของโฮสเทล

เป็นแหล่งพบปะเพื่อนใหม่ในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว เพราะเวลาเราไปโรงแรม เราแทบไม่มีโอกาสได้เจอเพื่อนเลย ต่างคนต่างก็อยู่ในห้องตัวเอง แต่ถ้าเราพักโฮสเทล เราสามารถเลือกห้องพักรวม (Dormitory) ซึ่งแน่นอนว่าเราจะได้เจอรูมเมทที่มาจากหลากหลายประเทศทั่วโลกนับเป็นโอกาสอันดีในการทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันถ้าโชคดีเจอคนที่คุยถูกคอกันอาจจะได้ขยับสถานะจากเพื่อนร่วมห้องกลายเป็นเพื่อนสนิทไปเลยก็ได้นะแต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับความชอบและการท่องเที่ยวของแต่ละคนด้วย

บรรยากาศเป็นกันเองเหมือนไปนอนบ้านเพื่อน โดยเกือบทุกโฮสเทลจะมี common area หรือพื้นที่ส่วนรวมให้ผู้เข้าพักใช้ทำกิจกรรมร่วมกันอาจจะเป็นห้องครัวหรือห้องนั่งเล่นซึ่งสามารถทำอะไรก็ได้เหมือนอยู่บ้านตัวเอง

ตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก โฮสเทลอาจไม่ได้ตั้งอยู่ในบริเวณใจกลางเมืองเนื่องด้วยปัจจัยทางด้านราคา แต่ในทางกลับกันโฮสเทลมักตั้งอยู่ใกล้กับสถานีขนส่งสาธารณะ อันได้แก่ สถานีรถไฟ สถานีรถไฟฟ้า สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งสะดวกมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวในที่ต่างๆ

ราคาห้องพักถูกกว่าโรงแรมหลายเท่า อาจจะเป็นเพราะผู้ให้บริการใช้ต้นทุนน้อยกว่าขนาดของห้องของโรงแรมเล็กกว่ามีส่วนที่ใช้งานร่วมกันมากกว่าจึงสามารถติดราคาถูกได้

ตัวอย่าง Hostel ที่น่าสนใจในกรุงเทพฯ

(รูปภาพจาก The Yard Bangkok)

The Yard Hostel

โฮสเทลชื่อดังในย่านอารีย์ บรรยากาศสบายๆเหมือนมานอนบ้านญาติ โดดเด่นด้วยการนำตู้คอนเทนเนอร์มาทำเป็นห้องพัก มีห้องนั่งเล่นและมีสนามหญ้าให้ใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน

(รูปภาพจาก Lub D)

Lub D

ต้นฉบับโฮสเทลแห่งแรกๆในประเทศไทย ตั้งอยู่ใจกลางเมืองติด BTS สนามกีฬาแห่งชาติ ตกแต่งในสไตล์ลอฟต์ แต่เพิ่มสีสันที่สดใสเข้าไป ทำให้ดูสนุกสนานมากขึ้น กำแพงในห้องพักเพ้นต์ลายกราฟิตี้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในกรุงเทพฯ เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้ไปเยี่ยมชมเมือง

(รูปภาพจาก bkkmenu)

Bed Station Hostel

โฮสเทลสุดฮิปในย่านราชเทวีกับโลเคชั่นที่ใกล้บีทีเอสเพียงไม่กี่ก้าวทำให้เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกตัวโฮสเทลเป็นตึกสีดำดูขรึมปนเท่จากโครงเหล็กแนวอินดัสเทรียลที่มองดูคล้ายประตูเหล็กยืดภายในตกแต่งเน้นโชว์พื้นผิววัสดุอย่างปูนเปลือยไม้และเหล็ก

แม้จะมีข้อได้เปรียบในเรื่องราคาห้องพักเมื่อเทียบกับโรงแรม แต่ก็เป็นรองในเรื่องการบริการที่ไม่เต็มรูปแบบ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้เข้าพักว่าจะเลือกพักในสถานที่แบบไหน ถ้าชอบบรรยากาศชิวๆ อยากประหยัดงบและอยากเจอเพื่อนใหม่ๆ ก็เลือกโฮสเทล แต่ถ้าอยากได้การบริการแบบ full service ก็เลือกพักโฮสเทล แต่ในอนาคตอาจจะมีโฮสเทลที่มีการบริการเทียบเท่าโรงแรมก็เป็นได้

ขอบคุณข้อมูลจาก : Brandbuffet

 เตียงนอน คือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญที่สุดในห้องนอน การเลือกเตียงจึงต้องใช้ความพิถีพิถัน และเอาใจใส่เตียงมีหลายแบบและทำจากวัสดุหลายอย่างให้เลือกซื้อ จนหลายๆ คนอาจจะสับสนว่าควรเลือกเตียงแบบไหนอย่างไรจึงจะเหมาะ บางแบบสวยแต่ไม่เข้ากับห้อง หรือมีน้ำหนักมากไป ก็อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดในการเลือกซื้อ เตียงที่ดีไม่ได้หมายความถึงเตียงที่สวย แต่ยังหมายถึงการใช้งานที่เหมาะสม และเข้ากันได้ดีกับห้องอีกด้วย

ขนาดเตียงกับห้องต้องสัมพันธ์กัน

ก่อนอื่นต้องทราบว่าฟูกมาตรฐานจะเป็นรูปทรง 4 เหลี่ยม และมี 3 ขนาดคือ3.5 x 6ฟุต (Single Bed)5 x 6 ฟุต (Queen Size)6 x 6 ฟุต (King size)

 ทำความสะอาดง่าย ปัญหาหนึ่งในห้องนอนคือปัญหาฝุ่น เตียงที่ทำความสะอาดยากและดักฝุ่นนอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังดูสกปรกอีกด้วย พยายามอย่าเลือกเตียงที่มีซอกน้อยซอยเล็กมากมาย เพราะแม้จะดูสวยดี แต่ถ้าทำความสะอาดยากก็ถือว่าไม่คุ้มค่า

บทความโดย : TerraBKK.com

สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับเตียงเด็ก

เวลานอนเป็นเวลาที่สงบสุขที่สุดสำหรับทารก แต่ก็เป็นเวลาที่อันตรายที่สุดเช่นเดียวกัน คุณต้องแน่ใจว่าเตียงของลูกนั้นปลอดภัย สามารถช่วยป้องกันการไหลตายในทารก (หรือตายขณะนอนหลับโดยไม่ทราบสาเหตุ) และอุบัติเหตุต่าง ๆ ลองคิดถึงเรื่องต่าง ๆ ต่อไปนี้เมื่อคุณจะเลือกซื้อเตียงเด็ก

1) ระวังกับการใช้เตียงเด็กแบบเลื่อนขึ้นลงด้านข้างได้

การใช้เตียงเด็กแบบเลื่อนขึ้นลงด้านข้างได้ค่อนข้างสะดวกสำหรับคุณพ่อคุณแม่เพราะสามารถยกเด็กวางลงในเตียงและยกเด็กเอาจากเตียงได้ง่าย แต่หลาย ๆ ประเทศได้ห้ามการผลิตและขายเตียงสำหรับเด็กทารกแบบเลื่อนขึ้นลงด้านข้างได้เนื่องจากมีรายงานการได้รับบาดเจ็บจากการใช้เตียงประเภทนี้

เตียงที่ไม่สามารถเลื่อนขึ้นลงด้านข้างได้อาจใช้ยากกว่าเนื่องจากคุณต้องก้มตัวลงไปมาก ๆ ดังนั้นคุณควรพิจารณาเรื่องความปลอดภัยให้ดีก่อนตัดสินใจว่าจะใช้เตียงแบบนี้หรือไม่

2) ตรวจสอบลูกกรง

ช่องว่างระหว่างลูกกรงแต่ละซี่ของเตียงควรมีความยาวประมาณ 1 ถึง 2 นิ้ว หรือ 2.5 ถึง 5 เซนติเมตร นี่เป็นระยะที่ปลอดภัยที่สุดที่มือหรือเท้าของเด็กจะไม่ไปติดกับซี่ลูกกรง

3) อย่าใช้แผ่นกันชน

คุณอาจอยากจะซื้อชุดเตียงเด็กน่ารักที่มาพร้อมกับแผ่นกันชน คุณอาจคิดว่าแผ่นกันชนจะช่วยปกป้องลูกจากการชนกับลูกกรงของเตียงได้ แต่ที่จริงแล้วแผ่นกันชนมีอันตรายมากกว่าการช่วยป้องกันมือและแขนของลูกติดลูกกรง หรือหัวกระแทก คุณควรหลีกเลี่ยงการใช้แผ่นกันชน ผ้าห่ม หรือหมอนชนิดใดก็ตามที่หนาเกินไป เพราะ เมื่อสิ่งของเหล่านี้อยู่ใกล้กับจมูกหรือปากของเด็กมากเกินไปจะทำให้เด็กหายใจลำบาก หรือแม้แต่หายใจไม่ออกเมื่อจมูกลูกอยู่ใต้ผ้า หรือชิดติดแผ่นกันชนและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

4) พิจารณาใช้เตียงแบบมีล้อ

แม้ว่าเตียงอาจจะไม่ได้จำเป็นต้องมีล้อเสมอไป แต่การมีล้อมันก็สะดวกดีหากคุณอยากขยับเตียงไปมา เช่น เอาไว้ข้างเตียงหรือออกไปรับอากาศด้านนอกบ้านบ้าง

ทางเลือกอื่น ๆ นอกจากการใช้เตียงเด็ก

คุณทราบหรือไม่ว่าพ่อแม่บางคนก็เลือกไม่ใช้เตียงให้ลูกเลย หากคุณอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมหรือห้องที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร คุณคงไม่อยากมีเตียงสำหรับเด็กเทอะทะอยู่ในบ้านเพราะจะกินที่มากพอควร

ทางเลือกที่ดีคือ การใช้เครื่องเรือนชิ้นเล็กกว่า เช่น ตะกร้าหวายสำหรับเลี้ยงเด็ก เตียงแบบ co-sleeper ซึ่งสามารถใช้ต่อกับเตียงใหญ่ของคุณพ่อคุณแม่ได้ นอกจากนี้ก็มีเตียงแบบ play pen ซึ่งสามารถพับได้ แต่เตียงแบบสุดท้ายนี้อาจไม่เหมาะให้เด็กใช้นอนทั้งคืน

            

 การนอนในห้องนอนเล็กมันน่าอึดอัดมากใช่ไหมล่ะครับ วันนี้ Defer เลยรวบรวม 12 ไอเดียแต่งห้องนอนเล็ก ๆ แบบประหยัดงบมาฝากกันครับ ซึ่งนอกจากจะทำให้ห้องนอนเล็ก ๆ ดูกว้างขึ้น โดยไม่ต้องใช้งบเยอะ ๆ ต่อเติมห้องนอนเพื่อขยายพื้นที่แล้ว ยังเป็นการตกแต่งห้องนอนแบบประหยัดที่จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าสตางค์ของคุณไปพร้อมกันด้วยล่ะ 

1. ทำที่เก็บของให้แนบเนียน

          สิ่งสำคัญประการแรกในการตกแต่งห้องนอนเล็ก ๆ ให้น่าอยู่ก็คือ มีที่เก็บของไว้ซ่อนของกระจุกกระจิกให้พ้นสายตาและที่สำคัญจะต้องไม่กินพื้นที่ในห้องนอนมาก ฉะนั้นหลาย ๆ คนจึงเลือกใช้ตู้เก็บของแบบบิวท์อินมากกว่าลอยตัว แต่ถ้าหากห้องนอนเล็กจริง ๆ ติดเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินก็ยังเหลือที่ไว้พักผ่อนไม่พอ อาจจะเลือกซ่อนที่เก็บของไว้หลังผนังหรือเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีช่องเก็บของในตัวแทน ก็ช่วยประหยัดพื้นที่ในห้องนอนได้เหมือนกันนะครับ

2. เลือกโทนสีให้เหมาะสมกับห้องนอน

          โทนสีห้องนอนก็มีความสำคัญไม่น้อย โดยเฉพาะห้องนอนแคบ ๆ หากใช้โทนสีเข้ม ๆ ก็จะยิ่งดูเล็กเข้าไปใหญ่ ฉะนั้นเปลี่ยนมาใช้โทนสีสว่าง ๆ หรือสีอ่อน ๆ เช่น ขาว ครีม หรือพาสเทล ก็จะช่วยพรางตาให้ห้องนอนเล็ก ๆ ของคุณดูกว้างขวางขึ้นทันที โดยเฉพาะเวลาที่แสงแดดตกกระทบบนผนัง แต่ถ้ายังยืนยันที่จะใช้สีเข้มก็ควรทำห้องนอนให้โล่งเข้าไว้ หมั่นเปิดหน้าต่างให้แสงแดดเข้ามาถึงด้านในให้ได้มากที่สุด ก็จะช่วยตัดปัญหาเรื่องห้องนอนคับแคบลงไปได้ครับ 

3. เพิ่มพื้นที่สีเขียนเปลี่ยนห้องนอนอับ ๆ ให้สดชื่น 

          ความคับแคบมักมาพร้อมกับอากาศอับชื้นเสมอ ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยนำดอกไม้ปักแจกันหรือปลูกต้นไม้ช่วยสร้างอากาศสดชื่นไว้ในห้องนอนสักต้นสองต้น หลังจากนี้แม้พื้นที่ของห้องนอนจะดูอึดอัดและคับแคบ แต่คุณก็จะไม่รู้สึกแบบนั้นอีกต่อไป

4. จัดพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งให้เป็นแกลลอรี่โดยเฉพาะ 

          รูปภาพหรือภาพถ่ายเป็นของประดับที่ทุกห้องนอนต้องมีติดไว้ แต่สำหรับคนห้องแคบควรจะหามุมเหมาะ ๆ สัก 1 มุมจัดให้เป็นที่โชว์ภาพไปเลย จะเป็นผนังด้านใดด้านหนึ่งของห้องนอน บนโต๊ะสักตัว หรือชั้นวางสักชั้นไปเลยก็ได้ หลีกเลี่ยงการวางรูปแบบกระจัดกระจายมุมละนิดมุมละหน่อย เพราะจะทำให้ห้องนอนทั้งรกและเล็ก

5. แบ่งพื้นที่โดยไม่ใช้ผนังกั้น 

          ยิ่งกั้นผนังเพื่อแบ่งสัดส่วนพื้นที่ใช้สอย ยิ่งทำให้ห้องนอนมีขนาดเล็กลงโดยใช่เหตุ ฉะนั้นห้องนอนเล็กจึงควรเปิดพื้นที่ให้โปร่งและโล่งมากที่สุด หากต้องการแบ่งสัดส่วนในห้องนอน ว่ามุมไหนใช้ทำอะไร อาจจะใช้วิธีปูพรมด้วยสีที่แตกต่าง ใช้ฉากกั้นที่สามารถพับเก็บได้ หรือจัดโต๊ะแยกของใช้แต่ละส่วนออกจากกันให้ชัดเจน 
 

6. วางเตียงให้ถูกตำแหน่ง

          ตำแหน่งการวางเตียงนอน ที่ถูกต้องก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้ง่าย ๆ หากเตียงเป็นแบบคิงไซส์แนะนำให้วางไว้ตรงกลางห้องโดยให้หัวเตียงชิดผนังด้านใดด้านหนึ่ง แต่ถ้าเป็นเตียงเดี่ยวก็ควรจะวางเข้ามุมห้อง จะได้เหลือพื้นที่ด้านข้างไว้เป็นทางเดิน วางเฟอร์นิเจอร์เพิ่ม หรือใช้นั่งเล่น

7. แต่งห้องนอนด้วยของน้อยชิ้น 

          ยิ่งมีของอยู่ในห้องนอนมากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้ห้องนอนดูเล็กมากขึ้นเท่านั้น ฉะนั้นหากมองดูแล้วมีอะไรที่ไม่จำเป็นหรือไม่ได้ใช้งานมานานมากแล้วก็ควรโยนทิ้งไปบ้าง แล้วเหลือข้าวของเครื่องใช้หรือของประดับตกแต่งให้น้อยชิ้นมากที่สุด แต่ห้องนอนเล็ก ๆ ของคุณจะดูกว้างขวางก็ต่อเมื่อคุณเก็บของเหล่านั้นให้เป็นระเบียบด้วยนะครับ 

8. แต่งด้วยกระจกช่วยขยายพื้นที่ให้ดูกว้าง

          อย่างที่รู้ ๆ กันว่ากระจกช่วยส่องขยายพื้นที่ให้ดูกว้างขึ้น ดังนั้นจึงควรนำกระจกมาตกแต่งภายในห้องนอนเพื่อเปิดความรู้สึกทางสายตาให้ดูไม่อึดอัดคับแคบตามความเป็นจริง  ซึ่งกระจกในที่นี้ไม่ได้หมายความถึงกระจกสะท้อนเพียงอย่างเดียว อาจจะเลือกใช้บานกระจกใสมาทำเป็นหน้าต่างด้วยก็จะช่วยได้อีกเยอะเลย

9. เลือกเฟอร์นิเจอร์เน้นที่เป็นขาตั้ง ลดความหนาที่ทำให้รู้สึกอึดอัด

          เฟอร์นิเจอร์ตัวใหญ่ ๆ หนา ๆ มีแต่จะทำให้ห้องนอนดูอึดอัดและคับแคบ ฉะนั้นหากจะนำเฟอร์นิเจอร์สักชิ้นเข้าไปตกแต่งห้องนอนเล็ก ๆ ของคุณ ควรเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีขาตั้งโปร่ง ๆ ก็จะช่วยลดความอึดอัดคับแคบลงได้ 

10. กระจายแสงด้วยของสีเมทัลลิก

          นอกจากแสงสว่างและกระจกจะช่วยทำให้ห้องนอนเล็ก ๆ ดูกว้างขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อแล้ว การตกแต่งห้องนอนด้วยสีเมทัลลิกก็ช่วยพรางตาเรื่องขนาดของพื้นที่ได้เช่นเดียวกัน เพราะสีเมทัลลิกจะช่วยกระจายแสงและทำให้ห้องนอนดูสว่างไปทุกมุมนั่นเอง 

11. เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชั่นหลากหลาย 

          พื้นที่ห้องนอนเล็ก ๆ จะวางอะไรมากก็ไม่ได้ แค่เตียงอย่างเดียวก็กินพื้นที่เกือบทั้งห้องแล้ว ฉะนั้นเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ที่นำมาตกแต่ง ควรเป็นเฟอร์นิเจอร์ประเภทมัลติฟังก์ชั่นหรือเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้มากกว่าหนึ่งด้าน เช่น เก้าอี้มีที่เก็บของในตัว โต๊ะที่ใช้นั่งเล่นหรือทำงานได้ในตัวเดียวกัน 

 ภาพจาก vertebraela 

12. ไม่จำเป็นต้องใช้ประตูเสมอไป

          บานประตูตู้ทั้งหลายในห้องนอนคืออีกหนึ่งอุปสรรคที่ทำให้รู้สึกอึดอัดคับแคบ ดังนั้นควรแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนจากตู้เสื้อผ้ามาเป็นราวแขวนแล้วปิดด้วยม่านรูดแทน ก็จะช่วยลดความรู้สึกอึดอัดลงไปได้อีกเยอะเลย แถมยังสามารถนำวิธีนี้ไปใช้กับตู้เก็บของได้ด้วย 

          คราวนี้คนห้องแคบก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการตกแต่งอีกต่อไป เพราะเทคนิคเหล่านี้จะเปลี่ยนห้องนอนเล็ก ๆ ให้ดูกว้างขวางขึ้นโดยไม่ต้องใช้วิธีรีโนเวทหรือต่อเติมใด ๆ ให้ยุ่งยากเลยครับ 
 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก sunset, Sfgate, Designinghome, Forbes, Listotic และ Decoratingwithless

 สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกเตียง 2 ชั้นก็คือ
-    เลือกเตียง 2 ชั้นที่มีขนาดและความสูงสัมพันธ์กับรูปร่างของผู้นอน โดยหากผู้นอนเป็นเด็กอยู่ อาจมีการกะขนาดเผื่ออนาคตก็ได้ แต่โดยมากแล้ว การนอนเตียง 2 ชั้นนั้นมักจะนอนในวัยเด็กจนถึงวัยรุ่น หากเข้าสู่วัยทำงานหรือผู้ใหญ่แล้ว มักจะต้องแยกห้องนอนกันหรือแยกย้ายมีครอบครัวในอนาคต
-    เลือกเตียงที่ทำจากวัสดุที่แข็งแรงคงทน เพราะหากเลือกเตียง 2 ชั้นที่ไม่แข็งแรงนั้นอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุการพังของเตียงอันจะก่อให้เกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะอันตรายต่อผู้นอนชั้นล่าง
-    ต้องเลือกเตียงที่ชั้นบนมีราวกันตกที่แข็งแรงแน่นหนา โดยเฉพาะหากเป็นเด็กในวัยที่กำลังซนแล้ว การที่ไม่มีราวกั้นที่แข็งแรงอาจทำให้พลัดตกบาดเจ็บได้
-    นอกจากจะเลือกเตียงสองชั้นที่เหมาะสมกับความสูงของผู้นอนแล้ว ควรเลือกให้เหมาะกับฝ้าเพดานด้วย เพราะหากคุณเลือกเตียง 2 ชั้นที่มีความสเกลความสูงที่มากแต่ฝ้าเพดานห้องต่ำ อาจทำให้ผู้ที่นอนชั้นบนเกิดความอึดอัด นอนไม่สบายได้ เพราฉะนั้นเวลาเลือกซื้อเตียง 2 ชั้นอย่าลืมวัดระยะความสูงของเตียงชั้นล่างกับเตียงชั้นบนเพื่อเอามาเปรียบเทียบกับความสูงของฝ้าเพดานห้องด้วย
-    เลือกเตียงที่มีบันไดขึ้นลงที่แข็งแรงเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขณะขึ้นหรือลงบันได
-    นอกจากการเลือกเตียง 2 ชั้นแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างนั่นก็คือการจัดวางเตียง 2 ชั้นด้วย โดยการจัดวางตำแหน่งของเตียง 2 ชั้นนั้น ไม่ควรให้อยู่ตรงกับตำแหน่งที่มีหลอดไฟ ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟดาวน์ไลท์หรือไฟนีออน เพราะถ้าอยู่ตรงกับตำแหน่งหลอดไฟแล้วละก็ คนที่นอนอยู่เตียงด้านบนจะร้อนมาก แต่ถ้ารู้สึกว่าชั้นบนมืดเกินไปหน่อย ก็ให้เลือกใช้วิธีการติดโคมไฟไว้ที่ผนังแทนก็ได้